(การดูแลผู้สูงอายุ) ไม่มีใครปฏิเสธความเสื่อมถอยของร่างกายตามกาลเวลาได้ โดยทั่วไปนอกจากมีปัญหาการเสื่อมถอยของร่ายกายแล้วยังมีปัญหาด้านจิตใจสมทบด้วยในเวลาเดียวกัน หากผู้สูงอายุมีความเครียด หรือกังวลกับเรื่องต่างๆ ย่อมส่งผลต่อร่างกาย และอาจเกิดภาวะเจ็บป่วยได้ในที่สุด
ด้านร่างกายไม่ว่าจะเป็นรูปร่างผอมลง น้ำหนักตัวลดลงอ่อนเพลีย ไม่มีแรง รู้สึกเหนื่อยง่ายมาก ทำเพียงนิดหน่อยก็จะมีอาการเหนื่อย สมรรถภาพในการทำกิจกรรมลดลง อาทิ ออกกำลังกาย ทำงานบ้าน หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่เคยชอบ แต่ทำไม่ได้เหมือนแต่ก่อน เดินช้าลง เป็นต้น
การดูแลผู้สูงอายุ มีความจำเป็นและสำคัญมาก เราควรเอาใจใส่ในด้านสุขภาพและสภาพแวดล้อมของผู้สูงอายุ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น โดยดูแลทั้งด้านสุขภาพกายและสุขภาพใจผู้สูงอายุ รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดกับผู้สูงอายุ
ซึ่งสิ่งนี้ผู้ที่มีบทบาทสำคัญคือ บุคคลในครอบครัวที่ต้องเข้าใจปัญหาต่างๆ ของผู้สูงอายุ เพื่อที่จะได้ดูแลได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
แต่ส่วนใหญ่ผู้สูงอายุไม่ชอบให้ผู้ใกล้ชิดดูแลตนเอง เพราะอาจรู้สึกไม่ดีที่ต้องมาเป็นภาระให้สมาชิกในครอบครัว แถมยังต้องคอยช่วยเหลือในกิจกรรมสำหรับชีวิตประจำวันต่างๆ ผู้สูงอายุบางรายมีความกังวลเรื่องสูญเสียความเป็นส่วนตัวและต้องปรับการดำเนินชีวิตใหม่ที่ไม่คุ้นเคย บางคนมักมีความเป็นตัวของตัวเองและวิตกว่าตนเองจะกลายเป็นคนอ่อนแอที่ต้องยอมให้คนในครอบครัวมาดูแล
หรือในผู้สูงอายุบางท่านกังวลกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องเสียเพิ่มสำหรับดูแลตนเอง ที่สำคัญ ผู้สูงอายุที่ขี้ลืมมักไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไมต้องได้รับการดูแล สาเหตุเหล่านี้ล้วนเป็นปัญหา สมาชิกในครอบครัวและลูกหลานควรทำความเข้าใจ เรียนรู้วิธีรับมือ และแก้ปัญหานี้ให้ถูกต้อง อาทิเช่น พิจารณาว่าผู้สูงอายุนั้นจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือด้านใดบ้าง รวมทั้งหาวิธีดูแลที่เหมาะสม ควรหาโอกาสพูดคุยกับผู้สูงอายุ โดยเลือกเวลาที่ทั้งสองฝ่ายรู้สึกผ่อนคลายและพร้อมจะพูดคุยกัน ซึ่งจะช่วยให้เปิดใจและเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ควรให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในการตัดสินใจสำหรับการดูแลตนเอง เช่น เลือกบุคคลในครอบครัวที่ต้องการให้ดูแลโดยเฉพาะ หรือเลือกใช้บริการดูแลผู้สูงอายุในกรณีที่สมาชิกในครอบครัวไม่มีเวลาดูแล ลูกหลานควรอธิบายเหตุผลต่างๆให้ผู้สูงอายุเข้าใจก่อนตัดสินใจเลือกวิธีดูแลนั้นๆ
สุดท้าย บุคคลในครอบครัวทุกคนควรช่วยโน้มน้าวให้ผู้สูงอายุรับฟังถึงเหตุและผล ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาระสำคัญที่ต้องยอมรับการดูแลจากผู้อื่น แต่ถ้าผู้สูงอายุยังไม่เข้าใจและไม่ยินยอมให้ดูแล ลูกหลานไม่ควรรบเร้าหรือบังคับให้ผู้สูงอายุรับฟังเหตุผลต่างๆ โดยที่ยังไม่เปิดใจ ควรหาโอกาสที่เหมาะสมกว่าพูดคุยภายหลัง
สรุป : การดูแลผู้สูงอายุให้มีสุขภาพดีประกอบด้วยการเรียนรู้และความเข้าใจวิธีดูแลที่ถูกต้อง โดยต้องใส่ใจการดูแลสุขภาพและจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมให้แก่ผู้สูงอายุ นอกจากนี้ การดูแลผู้สูงอายุมักมีปัญหาสำคัญที่บุคคลในครอบครัวต้องเตรียมรับมือคือ ผู้สูงอายุไม่ยินยอม และ ไม่ค่อยเชื่อฟังสมาชิกภายในครอบครัวเพื่อให้ดูแลตนเอง ฉะนั้นผู้ใกล้ชิดที่ทำหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุและบุคคลในครอบครัวท่านอื่นควรทำความเข้าใจสถานการณ์แบบนี้ เพื่อหาสาเหตุและรับมือกับปัญหาดังกล่าว เพียงเท่านี้ผู้สูงอายุภายในครอบครัวของท่านก็จะมีสุขภาพดีขึ้นทั้งกายและจิตใจ
อ้างอิงข้อมูลจาก : https://www.dop.go.th/th/know/15/409