เตรียมตัวทำงานบริบาลต่างประเทศ
การไปทำงานต่างประเทศ เป็นความฝันของหลายๆคน อาจจะเนื่องมาจากค่าตอบแทนการทำงานที่สูงกว่าการทำงานในประเทศไทย รวมถึงสิ่งแวดล้อมและวิถีการใช้ชีวิต และมีคนจำนวนไม่น้อยที่ทำตามความฝันได้สำเร็จ มีโอกาสได้เดินทางไปทำงานยังต่างประเทศ ซึ่งเมื่อไปแล้ว อาจจะประสบความสำเร็จตามที่ฝัน หรือเมื่อไปแล้วอาจจะไปพบเจอหรือมีประสบการณ์ที่ไม่เป็นไปตามที่ฝัน… ก็เป็นได้
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนที่ได้มีโอกาสไปทำงานต่างประเทศ สามารถทำงานอยู่ได้อย่างมีความสุขและประสบความสำเร็จในแบบที่ใฝ่ฝัน คือ “มีการเตรียมตัวที่ดี ที่พร้อม” ไม่ว่าจะเป็นด้านภาษา วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของประเทศนั้นๆ
การเตรียมตัวที่ดีในด้านงานบริบาล ต้องทำอย่างไรบ้าง … มาดูกันค่ะ
- สำคัญที่สุดคือเรื่องของ “ความรู้ด้านการบริบาล” ความรู้และประสบการณ์ของเราจะเป็นใบเบิกทางด่านแรกที่สำคัญมาก ทุกประเทศต้องการคนทำงานด้านนี้อันเนื่องมาจากสังคมผู้สูงวัยที่มีสัดส่วนจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะฉะนั้น การที่เราจะทำงานการบริบาล จึงจำเป็นต้องมีความรู้เรื่องการดูแลผู้สูงอายุ ได้รับการอบรมด้านนี้โดยเฉพาะ ตามหลักสูตร “ผู้ดูแลผู้สูงอายุ” ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ใช้เวลาเรียน 420 ชั่วโมง หรือ 3 เดือน
- สำคัญที่สองคือเรื่องภาษา ข้อนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะ เพราะการที่เราจะไปทำงานที่ประเทศใดก็แล้วแต่ เราก็ต้องสื่อสารกับเขาให้รู้เรื่อง โดยเฉพาะการทำงานด้านการบริบาล ซึ่งจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจ จึงมีความจำเป็นอย่างสูงที่จะต้องใช้การสื่อสาร พูดคุยกับผู้สูงอายุ และโดยปกติแต่ละประเทศก็จะมีการกำหนดในด้านภาษา เช่น ประเทศญี่ปุ่นกำหนดว่าผู้ที่จะไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นจะต้องผ่านการทดสอบด้านภาษาให้ผ่านในระดับ N4 ขึ้นไป หรือประเทศอังกฤษ กำหนดว่าจะต้องผ่านการทดสอบด้านภาษาอังกฤษ IELTs UKVi เท่านั้น ในระดับ 4.5 ขึ้นไปทั้ง 4 ทักษะ (ฟัง พูด อ่าน เขียน) ซึ่งหากสอบไม่ผ่าน เราต้องมีการเรียนรู้ด้านภาษาเพิ่มเติม จนกระทั่งสอบผ่านการทดสอบด้านภาษา โดยปกติทั่วไปจะใช้เวลาที่ประมาณ 6 เดือน ระยะเวลาการเรียนด้านภาษาและค่าใช้จ่ายในการเรียน จะขึ้นอยู่กับพื้นฐานของเรา ว่าจะต้องเริ่มเรียนตั้งแต่ระดับใด
- ขั้นตอนที่สำคัญไม่แพ้กันอีกขึ้นตอนหนึ่งคือ ขั้นตอนการสัมภาษณ์จากผู้ว่าจ้างของแต่ละประเทศที่เราต้องการจะไปทำงาน เขาจะถามอะไรบ้าง
- แน่นอนว่าการพูดคุยจะเป็นการประเมินความสามารถทางด้านภาษาของเรา นอกจากการดูผลการทดสอบด้านภาษาแล้ว ในขั้นตอนนี้คือการสื่อสารกับเจ้าของภาษาโดยตรง
- ถามความรู้ด้านการบริบาล ซึ่งก็จะเหมือนการสอบสัมภาษณ์ทั่วๆไปที่ผู้สมัครจะต้องถูกถามเรื่องความรู้ในด้านนั้นๆ จึงจำเป็นต้องมีความรู้เพียงพอที่จะตอบคำถามได้ ซึ่งหากมีประสบการณ์ด้วยก็จะช่วยให้เราสามารถตอบคำถามได้ดีและมีโอกาสที่จะผ่านการสัมภาษณ์
- ผู้สัมภาษณ์จะดูด้านทัศนคติของเรา เพราะการดูแลผู้สูงอายุ เป็นงานที่นอกจากต้องมีความรู้แล้ว จะต้องใช้ความอดทน ความโอบอ้อมอารี ความมีวุฒิภาวะ โดยประเมินเบื้องต้นจากการสัมภาษณ์พูดคุยกับเรา
- ถ้าเราสามารถผ่านขั้นตอนทั้ง 3 ข้างต้นได้แล้ว ก็เหลือเพียงขั้นตอนสุดท้ายคือ เรื่องการได้วีซ่าทำงานอยู่ที่ภาษาและประวัติส่วนตัว เพราะต้องขึ้นอยู่กับกงสุลแต่ละประเทศ ในการตรวจเรื่องประวัติส่วนตัว คดีความ ทางกงสุลจะตรวจสอบพิจารณาเอง
โอกาสได้ไปทำงานจะมีมากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับการเตรียมความพร้อมของเราค่ะ หากสามารถทดสอบความสามารถด้านภาษาผ่าน ตอบคำถามงานบริบาลได้ มีทัศนคติที่ดีกับงานบริบาล และพร้อมปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมแต่และประเทศ โอกาสได้งาน 90%+++ ส่วนอีก10% เป็นเรื่องประวัติส่วนตัว คดีความ ทางกงสุลแต่ละประเทศจะตรวจสอบพิจารณาเองค่ะ